หมอกหรือควัน
 
 
 
 
สวัสดีครับ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมืองเชียงใหม่และภาคเหนือได้เกิดฝุ่นละอองในเมือง สูงเกินมาตรฐานต่อเนื่องกันหลายวัน มีลักษณะเป็นหมอกหรือควันปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมได้ตรวจพบปริมาณฝุ่นละอองมีค่าสูง ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและมีค่าใกล้จุดวิกฤติ ที่ในหลายๆ ประเทศต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้านมลพิษกันแล้วครับ
สภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้คือตอนเช้าอากาศยังคงค่อนข้างเย็น อุณหภูมิประมาณ 19 องศาเซลเซียส มีหมอกลงหนาเต็มไปหมด ทัศนวิสัยอยู่ในช่วง 500-1,000 เมตร ไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพ และสิ่งก่อสร้างสูง ๆ ที่เคยมองเห็นเป็นปกติในตอนเช้า แม้ตอนสาย ตอนบ่าย จนถึงตอนเย็น หมอกหนาเหล่านี้ก็ไม่จางหายไป แสดงว่าไม่ใช่หมอกตามธรรมชาติที่มักจะเกิดในหน้าหนาว แสงอาทิตย์ไม่สว่างเหมือนเดิม ไม่มีลมพัด จึงทำให้เกิดบรรยากาศซึมเซา ไม่สดใส รถที่จอดไว้กลางแจ้งจะมีขี้เถ้าตกลงมาบนหลังคารถจนสังเกตเห็นได้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ได้ออกมาเตือนให้ประชาชนพยายามอยู่ในบ้าน และถ้าไม่จำเป็น ช่วงนี้ควรงดออกกำลังกายนอกบ้าน
เมื่อออกมาอยู่กลางแจ้ง หรือเดินตามถนนหนทางจะรู้สึกแสบจมูก มีอาการไอหรือจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ฝุ่นละอองจะรู้สึกได้ก่อนคนอื่น มีผู้คนจำนวนหนึ่งที่เริ่มใช้ผ้าปิดปากและจมูก เมื่อต้องเดินทางไปตามท้องถนนและร่างกายต้องสัมผัสอากาศโดยตรง ผู้สันทัดกรณีชี้แจงว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะมีการเผาป่าและขยะกันมาก ประกอบกับความกดอากาศกำลังแรงที่มาจากประเทศจีนยังแผ่มาปกคลุมภาคเหนือ ทำให้หมอกควันที่เกิดจากการเผาเหล่านี้ถูกกดเอาไว้ ไม่ให้จางหายไปที่อื่น ๆ เชื่อว่าถ้ามีลมพายุหรือฝนฟ้าคะนองสักครั้ง ก็จะช่วยผ่อนคลายสภาพอากาศที่มืดมัวซบเซานี้ไปได้
หมอกหรือควันที่เกิดตามธรรมชาติหรือเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ คงจะจางหายไปได้ในเวลาไม่นานนักด้วยกระแสลมหรือสายฝน แต่ถ้าเป็นหมอกหรือควันที่เกิดในใจของเรา จะจางหายไปก็ด้วยตัวเราเองเท่านั้น

14 มีนาคม 2550