ความปลอดภัยในโรงเรียน
 
 
 
 
สวัสดีครับ เมื่อเราส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ก็หวังว่าโรงเรียนจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับบุตรหลานของเรา เพราะเด็ก ๆ ต้องใช้เวลาประมาณ 8-10 ชั่วโมงทุกวัน(เว้นวันเสาร์-อาทิตย์)อยู่ในโรงเรียน วันนี้เราจึงจะมาคุยกันเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ของโรงเรียนที่จะช่วยให้บุตรหลานของเราใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย
ประเด็นแรกขอเริ่มที่ห้องเรียนที่นักเรียนเรียนประจำ หรือที่นิยมเรียกว่าโฮมรูม (Homeroom) ซึ่งนักเรียนจะต้องใช้เวลาอยู่ในห้องนี้ตลอดวันไม่น้อยกว่า 80 % มีอุปกรณ์ติดตั้งไว้หลายอย่าง ได้แก่ปลั๊กและสวิทช์ไฟฟ้า ซึ่งควรจะต้องมีสภาพดี ไม่มีรอยแตกชำรุดหรือเสียหาย เพราะอาจทำให้เกิดกระแสไฟรั่วเป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้ในห้องเรียนมักติดตั้งพัดลมเพดานไว้หลายตัว เคยมีข่าวว่าพัดลมเพดานชนิดที่เป็นใบพัด 3 ใบ ที่ติดตั้งไว้ไม่สูงมากพอ อาจทำให้นักเรียนที่กระโดดเล่นกันในห้องถูกใบพัดได้รับบาดเจ็บ ถ้าเป็นไปได้ควรเปลี่ยนเป็นพัดลมชนิดโคจร ที่มีตระแกรงปิดใบพัดอยู่ด้วย จะทำให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น และถ้าเป็นห้องเรียนที่อยู่ในอาคารหลายชั้น ซึ่งมีระเบียงอยู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ก็ควรติดตั้งเหล็กดัดที่หน้าต่าง กันไม่ให้นักเรียนปีนออกไปเก็บของที่ระเบียง เพราะอาจพลัดตกอาคารเรียน เป็นอันตรายจนถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้
บอร์ดกระดานชานอ้อยที่อยู่หน้าชั้นเรียน ที่ครูมักให้นักเรียนจัดบอร์ดนิทรรศการในโอกาสต่าง ๆ ควรกำชับนักเรียนให้หลีกเลี่ยงการใช้เข็มหมุดหรือเป๊ก เพราะถ้าตกหล่นลงบนพื้นห้องจะสังเกตเห็นได้ยาก อาจตำเท้านักเรียนทำให้เกิดบาดเจ็บ ยิ่งถ้านักเรียนต้องถอดรองเท้าเมื่ออยู่ในห้องเรียนยิ่งจะเสี่ยงมากขึ้น
คราวนี้ออกมาข้างนอกห้องโฮมรูมบ้าง เริ่มที่บริเวณโรงเรียนที่มีต้นไม้ใหญ่ปลูกอยู่ นักเรียนชอบใช้ใต้ต้นไม้เป็นสถานที่พักผ่อน ถึงแม้จะเป็นสถานที่ร่มรื่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยอันตรายหากมีกิ่งไม้ใหญ่ที่ผุ เพราะมีอายุมาก อาจถูกแรงลมพัดหักตกลงมา ถ้าถูกร่างกายของนักเรียนก็จะได้รับบาดเจ็บมาก โรงเรียนจึงควรสำรวจและตัดตกแต่งกิ่งไม้เหล่านี้อยู่เป็นระยะ ๆ ที่สนามกีฬากลางแจ้งเช่นสนามบาสเก็ตบอล มักมีแป้นสำหรับชู๊ตลูกบาสเก็ตบอลให้นักเรียนได้เล่นตามลำพัง ก็ควรจะต้องก่อสร้างให้มีความแน่นหนาแข็งแรงคงทน และมีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเสาแป้นบาสฯ หักล้มใส่นักเรียน เช่นเดียวกับประตูโรงเรียนที่ต้องเปิดเข้าออกตลอดเวลา มักทำด้วยโลหะที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ไม่ควรให้นักเรียนไปลากประตูเล่น เพราะเคยมีข่าวประตูโรงเรียนล้มทับนักเรียนเสียชีวิตมาแล้ว นอกจากนี้ในสนามหญ้าที่นักเรียนเข้าแถวเคารพธงชาติทุกวัน ก็ต้องให้นักเรียนช่วยตรวจตราให้ปลอดจากขยะทุกชนิด โดยเฉพาะประเภทที่แหลมคมเช่นไม้เสียบลูกชิ้น เพราะเคยมีข่าวว่าเสียบเข้าไปในซอกนิ้วเท้าของนักเรียนจนต้องส่งให้หมอผ่าตัดเอาออก
ในบริเวณที่ให้บริการน้ำดื่มสะอาดสำหรับนักเรียน อาจมีบางโรงเรียนมีบริการน้ำเย็นให้ด้วย ซึ่งจำเป็นต้องใช้กระแสไฟฟ้า เคยเป็นข่าวว่าเกิดไฟรั่วที่เครื่องทำน้ำเย็นจนทำให้นักเรียนที่ไปใช้บริการถูกไฟดูดเสียชีวิต โรงเรียนจึงต้องหมั่นตรวจสอบสายไฟ และการทำงานของเครื่องทำน้ำเย็นให้อยู่ในสภาพดีเสมอ รวมทั้งติดตั้งอุปกรณ์กันไฟรั่วไฟช๊อตไว้ด้วย
ในห้องคอมพิวเตอร์อาจเป็นสถานที่ไม่ปลอดภัยได้หลายอย่าง เช่น รางที่ใช้เดินสายไฟและสาย LAN ในระบบเครือข่าย และครอบด้วยโลหะ จะเป็นสื่อให้เกิดไฟฟ้าช๊อตถึงกันได้ง่าย ถ้าเกิดมีกระแสไฟฟ้ารั่วไหลจากเครื่องใดเครื่องหนึ่ง และสัมผัสกับรางครอบที่เป็นโลหะเหล่านี้ จึงต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะ ๆ นอกจากนี้ยังอาจมีภัยที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตมาถึงตัวนักเรียนอีก ซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างยาวคงจะขอนำไปคุยต่อในครั้งต่อไป

10 มกราคม 2551