เวลา : ปัจจัยแห่งความสุข
 
 
 
 
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นนาฬิกานับเวลาถอยหลังที่ผมจัดทำไว้ที่บรรทัดบนสุดของบทความนี้ ผมได้จัดทำไว้เป็นเวลานานพอสมควรแล้ว เพื่อช่วยเตือนความจำถึงจำนวนวันที่จะทำประโยชน์ให้กับราชการ ที่เหลือลดน้อยลงตามลำดับ ทำให้เห็นประโยชน์และคุณค่าของเวลาที่เป็นปัจจัยสำคัญเกี่ยวข้องกับเราทุกคน ขอนำมาคุยกันในวันนี้ครับ
คุณค่าของเวลา ถึงแม้เวลาจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คือให้ความเท่ากันทุกช่วงเวลา แต่ผู้คนก็ยังรู้สึกและเห็นคุณค่าของเวลาที่แตกต่างกันตามสถานการณ์ เช่น ถ้าอยากทราบว่า เวลาเป็นปีสำคัญแค่ไหนให้ถามนักเรียนที่สอบเอ็นทรานซ์ไม่ติดในปีนี้ เวลาเป็นเดือนสำคัญแค่ไหนให้ถามคุณแม่ที่คลอดลูกก่อนกำหนด เวลาเป็นสัปดาห์สำคัญแค่ไหนให้ถามคนที่ทำหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ เวลาเป็นวันสำคัญแค่ไหนให้ถามคนงานรายวัน เวลาเป็นนาทีสำคัญแค่ไหนให้ถามคนที่พลาดรถไฟ เวลาเป็นวินาทีสำคัญแค่ไหนให้ถามผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ หรือ ถ้าอยากทราบว่าเวลาเป็นเสี้ยววินาทีสำคัญแค่ไหนให้ถามนักกีฬาโอลิมปิคที่ได้เพียงเหรียญเงิน เป็นต้น แล้วจะทราบได้ว่าเวลามีคุณค่าจริง ๆ แม้เพียงเสี้ยววินาทีก็อาจทำให้พลาดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดาย
เวลาทำให้เกิดความสุข เมื่อมีความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เวลาเป็นปัจจัยที่จะช่วยทำให้เกิดความสุขได้ทั้งสิ้น เราจะมาพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป คือ เวลาทำให้ผ่าน(พ้น) บางครั้งเรารู้สึกเบื่อหน่ายกับบรรยากาศในการทำงาน กับบรรยากาศอึมครึมของสังคมรอบตัว เป็นทุกข์ใจกับสมาชิกในครอบครัว หรือกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เมื่อใช้เวลาสักช่วงหนึ่งเราจะผ่านพ้นความเบื่อหน่ายหรือความทุกข์นั้นไปได้ เรียกว่าใช้เวลาเป็นยารักษาแผลใจ เวลาทำให้ถึง การที่นักเรียนรอคอยวันประกาศผลเอ็นทรานซ์ ว่าที่คุณแม่รอวันคลอดบุตรคนแรก หนุ่มสาวรอวันที่ถึงกำหนดแต่งงาน ล้วนทำให้เกิดความทุกข์ทางใจได้ทั้งสิ้น เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งที่ทุกคนรอคอยก็จะมาถึง แล้วสิ่งดีๆ ที่มุ่งหวัง ก็จะมาถึงเราด้วยความสุขในที่สุด เวลาทำให้ลืม มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นทุกข์ใจ ไม่สบายใจ โกรธแค้น ชิงชัง จากบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดหรือผู้ร่วมงาน รวมทั้งจากความผิดพลาดของตนเอง ทำให้เกิดความทุกข์กังวลอยู่ในจิตใจตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่งก็อาจจะลืมสิ่งเหล่านั้น และทำให้ความสุขกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง เวลาทำให้จำ(ได้) ในชีวิตประจำวันเราอาจไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ ไปมากกว่าภาระกิจที่ต้องทำ ไม่เคยให้ความสำคัญกับสิ่งใดเป็นพิเศษ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงเราก็จำได้ว่าเป็นวันเกิดบุตรชายคนเล็ก เป็นวันครบรอบแต่งงาน ที่ควรจะมีการเฉลิมฉลอง เวลาจึงทำให้เกิดการจดจำที่มีความสุข
ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์สูงสุด เมื่อยังอยู่ในวัยเรียน พ่อแม่ครูบาอาจารย์เคยตักเตือนเสมอว่า ให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ แต่นักเรียนส่วนหนึ่งอาจจะไม่สนใจคำตักเตือนนั้น เพราะคิดว่ายังอยู่ในวัยเยาว์และมีเวลาอีกมากสำหรับอนาคตของเขา จึงปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่าน่าเสียดาย สำหรับผู้สูงวัยหรือผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณอายุ ทุกคนต่างตระหนักดีว่าจะมีเวลาเหลือเพื่อทำประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัว และผู้อื่นอีกไม่มากนัก จึงต้องวางแผนการใช้เวลาที่เหลืออยู่อย่างรอบคอบรัดกุมและเป็นประโยชน์สูงสุด โดยอาจจะแบ่งเวลาในแต่ละวันทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การออกกำลังกาย การทำงานบ้าน การทำงานอดิเรก การออกไปพบปะสังคมกับเพื่อน ๆ การท่องเที่ยว การปฏิบัติธรรม และการพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากนี้ยังควรเลือกกิจกรรมที่ต้องใช้สมองในการคิดไตร่ตรองอยู่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้สมองเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น อันจะเป็นภาระกับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง กิจกรรมง่าย ๆ ที่ทำได้เช่น การเขียนบันทึกเรื่องราวจากการท่องเที่ยวที่ผ่านมา การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ การสนทนาผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น

24 พฤษภาคม 2552